วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2550

Corée



Corée


La Corée (대한민국, 大韓民國) est une péninsule d'Asie de l'Est d'environ 220 000 km² située entre le Japon et la Chine. Elle est surnommée le Pays du matin calme (litt: le pays du Matin Frais : Joseon (ou Choson) (조선, ). la Corée a été divisée en deux États à la fin de la Seconde Guerre mondiale: la République de Corée, au Sud, est capitaliste et compte aujourd'hui près de 50 millions d'habitants, la République populaire démocratique de Corée, au Nord, est communiste et environ deux fois moins peuplée. Les relations entre les deux états sont tendues.
Les deux Corée ont formé un État unique pendant plusieurs siècles. Elles ont la même langue officielle, le coréen, langue probablement d'origine altaïque s'écrivant avec l'alphabet hangeul.
Sommaire[masquer]
1 Géographie physique
1.1 Les montagnes
1.2 Les fleuves
1.3 Les Côtes et les îles
1.4 Climat
2 Culture et Arts
3 Politique
4 Histoire
5 Notes et références
5.1 Lien externe
//

Géographie physique [modifier]
Articles détaillés : Géographie de la Corée du Nord et Géographie de la Corée du Sud.

Les montagnes [modifier]
Le paysage se compose à 70% de zones montagneuses partiellement couvertes de forêts à l'est et séparées par des vallées profondes et étroites. Dans l'ouest et le sud, on trouve des plaines côtières peuplées et cultivées. La chaîne principale est constituée par les monts T'aebaek, qui occupent le versant oriental de la péninsule. De plus, il existe également une cinquantaine montagnes dépassant les 2000 m d'altitude qui sont, pour la plupart situées, dans le Hamgyong au nord, dont le point culminant reste le mont Paektu (2744 m).

Les fleuves [modifier]
Le Yalou et le Tumen sont les deux plus importants fleuves (790 et 520 km respectivement), ils marquent la frontière avec la République populaire de Chine et la Russie. Tandis que le Han (514 km), qui traverse Séoul, et le Nakdong (525 km) assurent aussi bien les besoins en eau des villes que ceux de l'agriculture.

Les Côtes et les îles [modifier]
Ses côtes sont très découpées, et on y compte plus de 3 000 îles dont la principale est Jeju-do (제주도), située à 85 km au sud de la péninsule.
Les îlots de Liancourt, renommés Dokdo (독도) en 1954, administrés par la Corée du Sud, font l'objet d'une contestation de la part du gouvernement japonais depuis quelques années.

Climat [modifier]
Le climat local est relativement tempéré, bien que le sud soit touché par le régime des moussons appelé localement le jangma, permettant notamment la culture du riz. Le nord a un climat plus influencé par la Sibérie, aux hivers plus enneigés et rudes.

Culture et Arts [modifier]
Article Principal: Culture de la Corée Voir également : Art coréen, poterie coréenne, arts martiaux coréens, et danse coréenne Architecture bouddhiste coréenne Architecture bouddhiste coréenne. En textes chinois antiques, la Corée désigné sous le nom des « fleuves et des montagnes brodés dans la soie » (錦繡江山) et « la nation orientale du décorum » (東方禮儀之國). Pendant les 7èmes et 8èmes siècles, la route en soie a relié la Corée en Arabie. Dans 845, les commerçants arabes ont écrit, « au delà de la Chine est une terre où l'or abonde et qui est appelé Silla. Les musulmans qui sont allés là ont été charmés par le pays et tendent à arranger là et à abandonner toute l'idée de partir. » [2] Les festivités coréennes présentent souvent les couleurs vibrantes, qui ont été attribuées aux influences mongoles : rouges, jaunes lumineux, et verdissent souvent des motifs coréens traditionnels de marque. [28] Ces couleurs lumineuses sont parfois vues dans la robe traditionnelle connue sous le nom de hanbok. Une particularité de culture coréenne est son âge comptant le système. Des individus sont considérés comme un an quand ils naissent, et leurs incréments d'âge le jour de nouvelle année plutôt que sur l'anniversaire de leur anniversaire. En conséquence, l'âge indiqué d'une personne coréenne sera un ou deux ans de plus que leur âge exprimé en tradition occidentale.

Politique [modifier]
La péninsule est aujourd'hui divisée, au niveau du 38e parallèle (38선, 삼팔선, 三八線) en deux États indépendants : au sud, la République de Corée, qui est actuellement une démocratie parlementaire à représentation monocamérale (l'"Assemblée nationale") ; et au nord, la République populaire démocratique de Corée qui, selon la Constitution du 27 décembre 1972, est un État socialiste (ou communiste), fondé sur les idées du juche qui revendique l'indépendance politique, économique et militaire de la Corée du Nord.
De fortes tensions ont longtemps existé entre les parties, la zone démilitarisée (DMZ) étant la zone tampon concentrant le plus grand nombre de troupes au monde. Le village de Panmunjeom[1], lieu de signature du cessez-le-feu de 1953, est l'endroit où se déroulent traditionnellement les négociations entre les deux États.
La déclaration conjointe Nord-Sud du 15 juin 2000 est la pierre angulaire des nouvelles relations qu'entretiennent les deux États, en vue d'une réunification de la Corée.

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2550

เทคนิคตัดตัวเลือกข้อสอบฝรั่งเศส

เทคนิคการอัพคะแนนฝรั่งเศส เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่เรียนศิลป์ฝรั่งเศสมาก และที่สำคัญเพื่อน ๆ ที่อ่านต้องทำโจทย์ด้วยตัวเองนะ รับรองว่ารู้แนวอย่างที่บอกจริง ๆ ที่บอกมานี่เป็นเอนท์ระบบใหม่นะ ส่วนแอดมิชชั่นในเอเน็ตเรายังไม่รู้แนวข้อสอบว่าจะออกยังไง แต่เราว่าคงไม่ต่างกันมากหรอก อย่าลืมละกันว่าขอให้เนื้อหาแกรมม่าปึ๊กไว้ก่อน เพราะเราว่ามันก็ออกแน่อ่ะนะ
1. ดูโจทย์ทุกข้ออย่างคร่าว ๆ เช็คจำนวนข้อสอบ ฝนรหัสให้ถูก เขียนชื่อให้เรียบร้อย อันนี้ไม่ต้องให้บอกนะ แต่บอกก็ดีเพราะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
2. ทำข้อที่ได้ไปก่อน ข้อไม่ได้เอาไว้ทำทีหลัง ไม่จำเป็นต้องเรียงทุกข้อเป๊ะ ๆ เอาไปใช้ได้กับทุกวิชา เราว่าก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะ
3. ทำข้อง่าย ๆ ก่อนเช่น การออกเสียง จากนั้นก็ไปแกรมม่าที่พอทำได้ แล้วก็คำศัพท์ อันนี้อยู่ที่ความถนัดและความรู้ของแต่ละคน บางทีก็เก็งไม่ถูกร้อกไอ้ศัพท์พวกนี้ เอาเป็นว่าได้อันไหนก็ทำอันนั้นก่อนก็แล้วกัน บทความให้อ่านเก็บไว้ทำสุดท้ายเป็นดี ขืนทำก่อนเสียเวลาโคตรเลยแหละ จริงมั้ย
4. พอรู้เทคกะนิกแล้วก็ลองจับเวลาทำโจทย์จริงดู วิชานี้ถ้าอัพซัก 60-65 ขึ้นไปถือว่าคะแนนสวยแล้วแต่ต้องลองทำบ่อย ๆ และก็สม่ำเสมอ หัดตรวจทานข้อผิดซะบ้างว่าผิดเพราะอะไร เออ ลืมบอกไป ก่อนทำเนื้อหาแกรมม่าต้องแม่นเปรี๊ยะเลยนะ ศัพท์ก็เอาแค่พอได้ ไม่ต้องแปลได้ทุกตัวหรอก
5. อย่าลืม ทำข้อสอบเก่าบ่อย ๆ ข้อสอบเอนท์สิบพ.ศ. สิบห้า พ.ศ. ก็ควรทำด้วย เพราะถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนระบบใหม่ แต่แนวเราว่าแกรมม่า ศัพท์ วัฒนธรรม อะไรทำนองนี้ก็คงต้องออกแหละ ฟันธงเลย ว่าอย่างน้อยแกรมม่า ศัพท์ก็ออกแน่ ๆ เอาเป็นว่าก็ขยันทำมาเยอะ ๆ ละกัน


ที่มา:: http://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=26058

เทคนิคควรรู้ ในการดูหนังฝรั่งให้มันส์

1. เมื่อมีตัวละครไอ ขอให้คุณเตรียมใจว่าเขาจะตายด้วยโรคร้ายในตอนท้ายเรื่อง
2. ตำรวจจะสะสางคดีได้ก็ต่อเมื่อเขาถูกพักงานเท่านั้น
3. พระเอกจะไม่ร้องซักคำแม้จะโดนยำ โดนตื้บหนักแค่ไหน แต่ถ้านางเอกทายาที่แผลให้เมื่อไหร่ เขาจะร้องโอดโอย และในบางกรณีก็จะค้อนหนึ่งทีเป็นอย่างน้อย
4. ไม้ขีดไฟแค่ก้านเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะให้ความสว่างกับห้องทั้งห้องได้(ไฟแช้คก็ให้ผลเช่นเดียวกัน)
5. ผ้าห่มทุกผืนถูกออกแบบให้เป็นรูปตัว "L" เพื่อให้ด้านหนึ่งคลุมไปได้ถึงหน้าอกของผู้หญิง (มักจะหนีบไว้ด้วยรักแร้) ส่วนอีกด้านหนึ่งจะปกปิดได้เพียงแค่พ้นเอวผู้ชาย(ที่นอนอยู่ข้างๆเธอ) มาหน่อยนึง
6. สืบเนื่องจากข้อที่แล้ว ในกรณีที่บริเวณนั้นไม่มีผ้าห่มบรรยากาศรอบตัวชายหญิงคู่นั้นจะถูกปกคลุมด้วย หมอกแห่งศีลธรรม (บางที่เรียกว่า หม่องแห่งศีลธรรมก็มี)จนกว่าจะมีเสื้อผ้าติดตัว
7. ก้นผู้หญิงนั้นถือว่าโป๊ ส่วนก้นผู้ชายนั้นไม่
8. แผ่นดิสก์ทุกแผ่นสามารถใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องไม่ว่าจะเป็นระบบปฎิบัติการอะไร เวอร์ชั่นไหนก็ตาม
9.ในถุงช้อบปิ้งจากซุบเปอร์มาเก็ตต้องมีขนมปังฝรั่งเศสแท่งยาวๆเสียบไว้อย่างน้อยหนึ่งอันเสมอ
10. หมายเลขโทรศัพท์ทุกหมายเลขในอเมริกาต้องขึ้นต้นด้วย "555" เท่านั้น
11. เราสามารถใช้เครดิตการ์ดหรือคลิบหนีบกระดาษในการสะเดาะล้อคประตูทุกบานได้เสมอ ยกเว้นในกรณีที่หลังประตูบานนั้นมีเด็กติดอยู่และไฟกำลังไหม้ท่วมตึก
12. ทุกคนที่ตื่นจากฝันร้ายจะลุกขึ้นนั่งตัวตรงเหงื่อแตกพลั่ก หอบฮั่กๆหันมองรอบตัว
13. เกือบจะทุกครั้งที่รถคว่ำหรือชนกันอย่างแรง รถจะระเบิดอย่างรุนแรงและบางทีก็จะ ระเบิดซ้ำ ๆ กันสองสามครั้งจากมุมมองที่ต่างกัน
14. เมื่อตำรวจสืบคดีอะไรก็ตามการเข้าไปหาข้อมูลในบาร์อโกโก้นั้นนับเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และถึงแม้จะเข้าไปตอนแปดโมงเช้าไม่มีแขกมาเที่ยวซักคนบนเวทีก็ต้องมีน้องๆเต้นอยู่เสมอ (พร้อมด้วยหมอกแห่งศีลธรรม)
15. ไม่ว่าคุณพ่อจะทำงานอะไร เขาจะจำวันเกิดลูกชาย (มักจะอายุแปดขวบ)ไม่ได้เลย หรือในกรณีที่จำได้เขาก็จะกลับมาร่วมฉลองไม่ทัน
16. ตำรวจผู้ซื่อสัตย์ และขยันขันแข็งมาตลอดชีวิตการทำงานจะถูกยิงตายก่อนเกษียณสามวัน
17. เมื่อไหร่ที่ได้เห็นกระจกบานใหญ่ ไม่ว่าจะแนวตั้งหรือแนวนอนจะมีคนถูกโยน หรือถูกถีบทะลุออกมาภายในเวลาไม่ถึงอึดใจ
18.เมื่อคุณต้องวิ่งหนีการตามล่าจากผู้ร้ายพร้อมอาวุธครบมือกลางเมืองใหญ่ขอให้สบายใจได้ว่า จะมีขบวนพาเหรดอะไรซักอย่างมาให้คุณได้พลางตัวได้อย่างหวุดหวิด
19. ในกรณีที่ไม่มีขบวนพาเหรดขอให้คุณกระโดดลงแม่น้ำลำคลองที่ใกล้ที่สุด กระสุนของผู้ร้าย ทะลุน้ำลงไปแล้วเฉียดตัวคุณไปมา ไม่ว่าคุณจะอยู่ตื้นแค่ไหน
20. เมื่อมีเสียงลึกลับดังขึ้นมากลางดึกในบ้านผีสิงคุณผู้หญิงมักจะออกสำรวจพื้นที่ในชุดนอนโปร่ง และเปิดเผยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
21. เมื่อกระสุนหมด คุณจะมีกระสุนสำรองในกระเป๋ากางเกงเสมอแม้คุณจะไม่ได้พกมันมาด้วยก็ตาม
22.ไม่ว่าเมืองใดถ้าถูกคุกคามด้วยสัตว์ร้ายกระหายเลือดคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเป็นสิบ นายกเทศมนตรี ของเมืองนั้นจะคำนึงถึงภาพพจน์ของเมือง ในฐานะเมืองท่องเที่ยวหรือไม่ก็งานแสดงศิลปะที่กำลัง จะจัดในอีกสองวันเป็นอันดับแรก
23. ไม่ว่าคุณจะถูกรุมล้อมด้วยฝ่ายตรงข้ามเป็นสิบหรือมากกว่านั้นถ้าการต่อสู้กันมีส่วนผสมของมวยจีนอยู่ ฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามาโจมตีคุณทีละคนเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเต้นวนไปรอบๆ รอให้เพื่อนถูกเตะก่อน
24. จะมีที่ว่างให้คุณได้จอดรถหนึ่งที่เสมอ หน้าตึกที่คุณจะต้องเข้าไปไม่ว่าจะอยู่ในเมืองใหญ่แออัด แค่ไหนก็ตาม
25. ใครก็นำเครื่องบินลงจอดได้ขอให้มีใครอีกซักคนที่หอบังคับการคอยแนะนำผ่านทางเฮดโฟน
26. พนักงานขับพาหนะทุกประเภท ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นๆ(แถวบ้านผมเรียกว่าไม่รู้ อิโหน่อิเหน่) จะมีโอกาสตายเพราะลูกหลงมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
27. ไม่เคยมีสวิตช์ไฟในห้องครัวถ้าต้องเข้าครัวตอนดึกการเปิดตู้เย็นเป็นหนทางเดียวที่จะได้มาซึ่ง แสงสว่าง
28. สุนัขมักจะเป็นอมตะ ยกเว้นกรณีที่ต้องข้องเกี่ยวกับสัตว์นอกโลกหรือหุ่นยนต์จากอนาคต
29. ในห้องเก็บของทุกบ้านจะมีลังเก็บของเก่าในลังนั้นถ้าค้นอย่างตั้งใจจะไม่เจออะไรที่สำคัญ แต่เมื่อทำหล่นเมื่อไหร่ของสำคัญที่ว่าจะโผล่ออกมาเองส่วนใหญ่จะเป็นข่าวการตายอันแปลก ประหลาดที่ตัดมาจากหนังสือพิมพ์)
30. ทุกเช้าคุณแม่จะเตรียม ไข่ดาว เบคอน และวัฟเฟิลไว้บนโต๊ะเสมอถึงแม้คุณพ่อกับคุณลูกจะ ไม่เคยกินเลยก็ตาม (คุณพ่อจะซดกาแฟ คุณลูกจะซดน้ำส้มแล้วก็รีบออกจากบ้านไปทันที)
31.ลิปลติกทุกแท่งทุกยี่ห้อเมื่อได้ทาแล้วมันก็จะจะติดทนอยู่บนริมฝีปากคุณอย่างมหัศจรรย์ ต่อให้ไปลุยน้ำลุยไฟที่ไหนก็จะไม่เลือนออก
32. คนหนึ่งคนมีโอกาสยิงคนยี่สิบคนตายหมดมากกว่าคนยี่สิบคนยิงคนหนึ่งคนให้ตาย
33.ตำรวจทุกคนจะต้องกรอกแบบฟอร์ม บอกลักษณะนิสัยมอบไว้ที่กรมก่อนที่จะเข้าทำงาน เพื่อที่มื่อไหร่ก็ตามที่จะต้องมีคู่หูคนใหม่ ทางกรมจะได้เลือกผู้ที่มีนิสัยเข้ากันไม่ได้มาให้อย่างถูกต้อง
34. ข่าวในโทรทัศน์จะมีแต่เรื่องที่สำคัญต่อคุณเท่านั้น
35. ไม่ว่าจะอยู่ในตึกไหนในกรุงปารีสเราจะมองเห็นหอไอเฟลได้อย่างไม่มีปัญหา
36. ท่อแอร์ในตึกทุกแห่งเป็นที่ที่ดีที่สุดในการหนีผู้ร้ายและมันยังนำเราไปสู่ทุกที่ในตึกนั้นได้โดย ไม่มีใครสังเกต
37. ไม่ว่าเราจะตัวใหญ่แค่ไหน ท่อแอร์จะใหญ่กว่าเราเสมอ
38. เมื่อต้องจ่ายค่าแท็กซี่จงล้วงเข้าไปในกระเป๋าสตังค์แล้วหยิบเงินออกมามั่วๆโดยไม่ต้องก้มลงไปดู เงินที่หยิบออกมาจะมีค่าเท่ากับค่าโดยสารพอดีทุกครั้งไป
39. ชาวต่างชาติจะพูดภาษาอังกฤษเท่านั้นแม้ว่าจะคุยกับคนชาติเดียวกันสองต่อสองก็ตาม
40.เลื่อยไฟฟ้าเป็นของใช้ประจำบ้านที่จะมาอยู่ใกล้ๆมือทุกครั้งที่ต้องการจะใช้และไม่ว่าคุณจะเคยใช้ มาก่อนหรือไม่ก็ตามเพียงแค่หยิบขึ้นมาคุณก็จะใช้มันเป็นได้อย่างคล่องแคล่วทันที
41. เมื่ออยู่ในสนามรบ อย่าเอารูปแฟนขึ้นมาดูอย่าอ่านจดหมายที่ได้รับจากทางบ้าน อย่าเล่าเรื่อง ประทับใจในวัยเด็กให้ใครฟัง คุณจะรอดชีวิตกลับบ้านแน่นอน

เพลงชาติฝรั่งเศส

La Marseillaise
Allons enfants de la PatrieLe jour de gloire est arrivéContre nous de la tyrannieL'étendard sanglant est levé {2x}Entendez vous dans les campagnesMugir ces féroces soldatsIls viennent jusque dans vos bras,Egorger vos fils, vos compagnes
{Refrain:}
Aux armes citoyens ! Formez vos bataillons !Marchons, marchons,Qu'un sang impur abreuve nos sillonsQue veut cette horde d'esclavesDe traîtres, de Rois conjurés ?Pour qui ces ignobles entraves,Ces fers dès longtemps préparés ? {2x}Français ! pour nous, ah ! quel outrage !Quels transports il doit exciter !C'est nous qu'on ose méditerDe rendre à l'antique esclavage !
{au Refrain}
Quoi ! des cohortes étrangèresFeraient la loi dans nos foyers ?Quoi ! ces phalanges mercenairesTerrasseraient nos fiers guerriers {2x}Grand Dieu ! par des mains enchaînéesNos fronts sous le joug se ploieraient,De vils despotes deviendraientLes maîtres de nos destinées ?{au Refrain}
Tremblez, tyrans ! et vous, perfides,L'opprobe de tous les partis,Tremblez ! vos projets parricidesVont enfin recevoir leur prix {2x}.Tout est soldat pour vous combattre,S'ils tombent, nos jeunes héros,La terre en produit de nouveauxContre vous tous prêts à se battre{au Refrain}Français ! en guerriers magnanimesPortez ou retenez vos coups.Epargnez ces tristes victimesA regret s'armant contre nous {2x}.Mais le despote sanguinaire,Mais les complices de Bouillé,Tous ces tigres qui sans pitiéDéchirent le sein de leur mère
{au Refrain}
Amour sacré de la PatrieConduis, soutiens nos bras vengeurs !Liberté, Liberté chérie !Combats avec tes défenseurs {2x}.Sous nos drapeaux, que la victoireAccoure à tes mâles accents,Que tes ennemis expirantVoient ton triomphe et notre gloire !
{au Refrain}
Nous entrerons dans la carrière,Quand nos aînés n'y seront plusNous y trouverons leur poussièreEt les traces de leurs vertus. {2x}Bien moins jaloux de leur survivreQue de partager leur cercueil,Nous aurons le sublime orgueilDe les venger ou de les suivre !{au Refrain}โค๊ด
ที่มาเพลง : http://old.marseillaise.org/francais/
ที่มาเนื้อเพลง : www.paroles.net

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2550

เกาๆๆๆหลี


1. การเรียกชื่อแล้วต่อท้ายชื่อด้วย 이 อ่านว่า อี หรือ 가 อ่านว่า กา กรณีชื่อพยางค์สุดท้ายมีตัวสะกด จะลงท้ายด้วย 이 ตัวอย่างเช่นชื่อ 해원 อ่าน เฮ วอน แต่เวลาเรียกจะเรียก 해원이 อ่านว่า เฮ วอ นี (หลัก linking เสียง)ชื่อ 태성 อ่าน เท ซอง แต่เวลาเรียกจะเรียก 태성이 อ่านว่า เท ซอ งี (หลัก linking เสียงเช่นกัน)กรณีชื่อพยางค์สุดท้ายมิมีตัวสะกด จะลงท้ายชื่อด้วย 가 เช่นชื่อ 수미 อ่าน ซู มี แต่เวลาเรียกจะเรียก 수미가 อ่านว่า ซู มี กา2. การเรียกชื่อแล้วต่อท้ายชื่อด้วย 아 อ่านว่า อา หรือ 야 อ่านว่า ยากรณีชื่อพยางค์สุดท้ายมีตัวสะกด จะลงท้ายด้วย 아 เช่นชื่อ 남진 อ่าน นัม จิน เวลาเรียก เรียก 남진아 อ่านว่า นัม จิ นาชื่อ 수정 อ่าน ซู จอง เวลาเรียก เรียก 수정아 อ่านว่า ซู จอ งากรณีชื่อพยางค์สุดท้ายไม่มีตัวสะกด จะลงท้ายด้วย 야 เช่นชื่อ 나라 อ่าน นารา เวลาเรียก 나라야 อ่านว่า นา รา ยาชื่อ 윤희 อ่าน ยุน ฮี เวลาเรียก 윤희야 อ่านว่า ยุน ฮี ยา นั้นเป็นเหตุผลที่อาจจะได้ยิน 자기 (จากี) เป็น 자기야 (จากียา) ซึ่งแปลว่า ที่รัก ได้คับผ้ม..ที่มา www.popcornfor2.com

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2550

สูตรชะลอความแก่ ตำรับฝรั่งเศส



สูตรชะลอความแก่ ตำรับฝรั่งเศส
ความชราได้ย่างกราย มาสู่ชีวิต ตั้งแต่วันแรกที่เราเกิดมา โดยผู้ชายจะสังเกตเห็นความเปลี่ยน แปลงได้ชัดเจน เมื่ออายุย่าง 35 ปี หลังจากนั้น จะร่วงโรยแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนผู้หญิงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเกิดขึ้นช้ากว่า ประมาณช่วงอายุ 40 ปี แต่หลังจากนั้นจะร่วงโรยลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้หญิงในวัย 40 อัพ ดูแก่กว่าผู้ชายวัยเดียวกันอย่างน่าตกใจ!!” นี่คือเรื่องจริงที่ถูกเปิดเผยโดย ดร.โกล๊ด โฌฌาร์ด แพทย์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส ผู้นำด้านศาสตร์การชะลอความชรา และเจ้าของผลงานเบสต์เซลเลอร์ท็อปฮิตอย่าง “Look and Feel 10 years younger in just 30 days”
“ดร.โกล๊ด” เปิดใจให้สัมภาษณ์ ระหว่างเดินทางมาเยือนประเทศไทย เมื่อเร็วๆนี้ ว่า สัญญาณแห่งความชราจะเกิดขึ้นพร้อมๆกันหลายทาง ไม่เฉพาะเจาะจงด้านใดด้านหนึ่ง โดยสังเกตได้จากริ้วรอยเหี่ยวย่นที่ปรากฏ, ผิวหน้าเริ่มหยาบกร้าน หย่อนคล้อย, น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นผิดปกติ ขณะที่สมรรถนะการทำงานของร่างกายและสมองลดลง, ระบบการย่อยอาหารทำงานช้าลง และสมรรถภาพทางเพศลดลง...หมายความว่า ถ้าใครไม่อยากแก่ ก็ต้องหาวิธีปิดประตูความแก่ทุกๆทาง?!

และนี่เองคือที่มาของ “โปรแกรมชะลอความชราเฉพาะบุคคล” “ดร.โกล๊ด” และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก “ลา คลินิก เดอ ปารีส” มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ได้ช่วยกันออกแบบคิดค้นขึ้น เพื่อฟื้นฟูความเสื่อมสภาพในระดับเซลล์!! โดยล่าสุด “ดร.โกล๊ด” ได้จับมือกับ “นิดา สกิน แอนด์ คอสเมติก เซอร์เจอรี่ เซ็นเตอร์” ย่านสยามสแควร์ ซอย 9 นำโปรแกรมใหม่สุดฮอตนี้ มาให้คนไทยได้สัมผัสเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้คอนเซปต์เดียวกันทั่วโลกคือ Live Longer, Live Better
“ดร.โกล๊ด” เล่าถึงกระบวนการทำงานของโปรแกรมนี้ว่า เริ่มต้นคนไข้ทุกคนจะต้องเจาะเลือด เพื่อนำเลือดและปัสสาวะส่งตรงไปยังห้องแล็บในกรุงปารีส ดำเนินการตรวจวิเคราะห์ชีววิทยาในระดับโมเลกุล เพื่อวินิจฉัยความชราของแต่ละบุคคล เมื่อทางปารีสส่งผลการตรวจกลับมาถึงเมืองไทย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิดว่า ใครเหมาะกับโปรแกรมเฉพาะรูปแบบใด โดยแบ่งเป็น 4 โปรแกรมหลักๆคือ “Skin program” เน้นคนไข้ที่มีริ้วรอยก่อนวัยอันควร คุณภาพผิวแย่ลง มีการรวมตัวของเม็ดสีผิว จนเกิดเป็นจุดด่างดำ “ดร.โกล๊ด” แนะนำว่า คนไข้กลุ่มนี้ควรเริ่มต้นรักษา ด้วยการวินิจฉัยความชราของผิวในระดับเซลล์ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการเยียวยาเพื่อลดความเสื่อมสภาพในระดับโมเลกุล ด้วยการทานสารอาหารทดแทน และเทกคอร์สโปรแกรมด้านโภชนาการ

ส่วนคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน เป็นตัวบ่งชี้ความแก่ แพทย์ชื่อดังจากฝรั่งเศสแนะนำว่า ควรเข้าคอร์ส “Slimming program” เพื่อปรับสมดุลของร่างกายในระดับเซลล์ โดยเริ่มต้นจากการวิเคราะห์การอักเสบของเยื่อหุ้มเซลล์ และอัตราการเผาผลาญน้ำตาล รวมทั้งภาวะความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกายที่เป็นสาเหตุของน้ำหนักตัวเกินพอดี “ดร.โกล๊ด” บอกว่า การรักษาเพื่อปรับสมดุลของร่างกายในระดับเซลล์ จะต้องทำควบคู่กันหลายทาง ทั้งทานสารอาหารทดแทน, เข้าโปรแกรมโภชนาการตามเวลาเพื่อความอ่อนเยาว์ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งออกแบบเฉพาะให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
การชะลอความแก่ไว้ก่อน ย่อมดีกว่าปล่อยให้ตีนกามาเยือน แล้วค่อยแก้ไข!! สำหรับหนุ่มสาวที่อายุไม่มาก เตรียมการไว้แต่เนิ่นๆได้ด้วยการเข้าโปรแกรม “Ageless program” เพื่อรักษาความอ่อนเยาว์ไว้นานเท่านาน โดยการรักษา จะเน้นไปที่การป้องกันความเสื่อมสภาพของเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุของความแก่ ส่วนผู้สูงวัยที่อยากกลับ มามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เหมาะกับ “Forever young program” โปรแกรมอินเทนซีฟที่ควบคุมทุกสาเหตุแห่งความเสื่อมสภาพของเซลล์